วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทริปง่ายๆจับจุด GDI


สวัสดีครับ ผมอยากแนะนำเพื่อนๆสักนิดนะครับ การศึกษาข้อมูล ธุรกิจ GDI มีอยู่ไม่กี่ข้อเองครับ ถ้าเราจับจุดได้ ข้อมูลที่เราดูมันอาจจะเยอะ เห็นแล้วไม่อยากจะอ่านเลย อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด วันนี้ผมมี
ทริปเด็ดๆ มาให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจในธุรกิจ GDI เพียงไม่กี่ข้อ เพื่อนๆก็สามารถทำธุรกิจ GDI ได้แล้วครับ

ทริป GDI มี 6 ข้อต่อไปนี้นะครับ

1. ศึกษาประวัติและความมั่นคง
2. รู้จักสินค้าและลักษณะของธุรกิจ
3. การสร้างรายได้ทางอินเตอร์เน็ต
4. แผนการตลาด
5. วิธีการรับรายได้
6. วิธีการเตรียมบัตรและวิธีการสมัคร

ครับ ถ้าศึกษาทริปทั้ง 6 ข้อแล้ว หากเพื่อนๆสนใจอยากที่จะเริ่มธุรกิจ GDI หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ให้เพื่อนๆ กรอกชื่อ,เบอร์โทร,เมล์ (ข้อมูลทุกอย่างไม่มีส่งถึงมือที่สาม) รับข้อมูลธุรกิจนี้ ทันที!!

ก่อนจะเริ่มเรียนรู้ ผมขอบอก จุดเด่นของ ธุรกิจ GDI ก่อนครับ

ธุรกิจ GDI จะไม่มีแอบแฝงงานขายสินค้าอุปโภค,บริโภคใดๆทั้งสิ้นครับ
ทำธุรกิจ GDI ไม่ต้องเดินทางไปอบรมนอกสถานที่ การเรียนรู้และทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต 100%
ธุรกิจ GDI ไม่ต้องซื้อสินค้าราคาแพงๆ หรือสต๊อกสินค้าเพื่อรักษายอดทีละเยอะๆ


logo sign


ข้อได้เปรียบธุรกิจ GDI กับธุรกิจเครือข่ายทั่วไป


ข้อได้เปรียบระหว่าง ธุรกิจ GDI กับ ธุรกิจเครือข่ายทั่วๆไป
   
       **วันนี้ถ้าท่านเป็นนักธุรกิจเครือข่าย ลองถามตัวเองสิว่า ถ้าท่านมี ทีมงาน 200 คน ท่านจะหยุดได้มั้ย ?
    ถ้าท่านตอบว่า ได้ ท่านคิดผิดถนัดเลย เพราะผมเองเคยมีทีมงานในธุรกิจเครือข่าย ในระบบหนึ่งถึง 400 กว่าคนแต่ก็ยังหยุดไม่ได้ แม้แต่คนรู้จักของผมที่มีทีมงานถึง 10,000 กว่าคน
    ก็ยังหยุดไม่ได้ เพราะอะไรนั่นหรอ
    ง่ายมากครับ



ปกติแล้วธุรกิจเครือข่ายจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มสินค้าราคาแพง และกลุ่มสินค้าราคาถูก

กลุ่มสินค้าราคาแพง  ท่านขายได้รอบหนึ่งก็จะได้กำไรมาก เพราะ commission มาก แต่เพราะราคาสูงนี่แหละ ที่ทำให้ท่านขายได้ยากจริงมั้ยครับ
กลุ่มสินค้าราคาถูก  กลุ่มนี้ท่านจะสามารถขยายองค์กรได้มาก แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า นั่นคือ การฆ่าตัวตายทางอ้อมนะครับ ในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ผมเองเคยเห็นมาทั้ง 2 รูปแบบแล้วครับ สมมุติว่าผมมีทีมงานที่ภาคใต้ต้องการสั่งสินค้า 600 กว่าบาท แต่เนื่องจะเป็นสินค้าราคาถูก ทำให้มีหลายชิ้น ผมต้องเสียค่าขนส่งให้ทีมงานคนนี้ 170 กว่าบาท ถ้าผมไม่จ่าย ทีมงานก็ต้องจ่ายถูกมั้ยครับ พอทีมงานจ่ายและซื้อสินค้าไปได้ 1-2 เดือน ทีมงานก็เห็นว่าค่าขนส่งแพง จึงเปลี่ยนไปใช้สินค้าชนิดอื่นที่อยู่ละแวกนั้นแทน เมื่อไม่มีการสั่งสินค้า ทีมงานก็ตายกันเป็นทอดๆ ดังนั้น  ตราบใดก็ตามที่ ธุรกิจเครือข่าย ยังมีค่าขนส่งมาเกี่ยวข้อง ท่านก็อาจเจอปัญหาได้ง่ายๆ


แต่ ธุรกิจ GDI เราทำทุกอย่างผ่าน Internet ทั้งหมด ตั้งแต่ สมัคร ทำงาน รับเงิน ดังนั้นจึงไม่มีค่าขนส่งมาเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น




อย่าง ที่ทุกท่านก็ทราบกันแล้วนะครับว่า ธุรกิจเครือข่าย มักจะมีการรักษายอด ถ้าเกิดวันที่ท่านจะต้องรักษายอด ท่านเกิดอยู่ต่างจังหวัดล่ะครับ จริงอยู่ ท่านสามารถฝาก Upline ได้แต่ถ้าเค้าไม่ว่างล่ะ เมื่อท่านหรือทีมงานพลาดการรักษายอดท่านก็จะอดรายได้ไป


 แต่ ธุรกิจ GDI ทุกอย่างเราทำผ่าน Inernet ทั้งหมด พอสิ้นเดือนไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดก็ตามในโลกนี้ GDI จะส่ง mail ไปหาท่านว่า ท่านมีค่าใช้ Domain $10 แล้วเค้าก็จะตัดผ่าน Internet ไปเอง ดังนั้นท่านและทีมงานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องรักษายอดเลย และตรงนี้ก็เป็นข้อดีมากๆ เพราะท่านจะรู้แน่นอนว่า ท่าน จะมีรายได้เท่าในเดือนนั้น สมมติว่า ท่านมีทีมงาน 200 คน ท่านรู้ได้แน่นอนเลยว่า ท่านจะมีรายได้อย่างน้อย $200 แน่นอนครับ


อันนี้เป็นอีกข้อนึงที่ผมชอบมากๆ ปกติแล้วในธุรกิจเครือข่าย ผู้มุ่งหวังจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มผู้ทำธุรกิจ สมมติวันนี้ ท่านเดินมาเจอผมแล้วชวนผมทำธุรกิจเครือข่ายกับท่าน ท่านไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผมจะเป็น ผู้ทำธุรกิจหรือผู้บริโภค แรกๆผมอาจใช้สินค้า 30,000 บาท สมมุติท่านได้ commission 15% ก็ได้เงินไป 4,500 บาท แล้วถ้าเกิดเดือนหน้า ผมไปเจอสินค้าแบร์นเนม ยี่ห้ออื่นที่น่าใช้หล่ะ รายได้คุณจะหยุดทันที ถ้าผมเกิดเปลี่ยนไปใช้ ยี่ห้อนั้น เพราะคุณเองก็ไม่สามารถบังคับให้ผมซื้อสินค้ากับคุณได้ จริงมั้ยครับ


แต่ ใน ธุรกิจ GDI ผู้ที่เข้ามา ทุกคนล้วนเป็นคนที่ต้องการสร้างรายได้ ล้วนเป็น ผู้ทำธุรกิจกันทุกคน ดังนั้นคงจะดีกว่าแน่ ถ้าท่านทำธุรกิจ GDI แล้วมีทีมงาน 1 คน แต่คนนั้นเป็น ผู้ทำธุรกิจแน่นอน เค้าจะต้องสร้างองค์กรของเค้า แล้วถ้าเค้ามีทีมงาน 200 คนหล่ะ ท่านก็จะได้ $200 ในทุกๆเดือน ไม่ใช่แค่เดือนเดียวถ้าพูดถึงสินค้า ของธุรกิจ GDI ก็คือเครื่องมือในการสร้างรายได้ เครื่องมือในการสร้างธุรกิจซึ่งก็คือ Domain name ซึ่งสามารถสร้างรายได้ ดังที่กล่าวไว้แล้ว ซึ่งแตกต่างกับ ธุรกิจเครือข่ายทั่วๆไป เพราะสินค้าของเค้าเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ใช้แล้วหมดไป แต่ไม่ได้สร้างรายได้ให้เลยแม้แต่นิดเดียว

logo sign

ข้อ นี้เป็นข้อที่ผมและทีมงานค่อนข้างจะชอบที่สุด ในธุรกิจเครือข่ายทั่วไป เวลาทีมงานมีรายได้ แต้มทั้งหมดก็จะขึ้นสู่ Upline จริงมั้ยครับ ทำให้ Upline ไม่ต้องทำงานมาก สำหรับผมแล้ว ผมเข้าใจว่า นั่นก็เป็นสิ่งที่ Upline ก็ควรจะได้รับ เพราะเค้าสอนงานคุณ ช่วยเหลือคุณ นั่นก็เป็นค่าตอบแทนของเค้า แต่เราก็ทราบกันดีว่า Downline เองก็มีหลายประเภท บางคนก็จะคิดว่า Upline เอาเปรียบ เค้าทำงานหนักแทบตาย แต่ Upline อยู่เฉยๆ ยังมีรายได้มากกว่าเค้าเสียอีก ทำให้เค้าไม่มีกำลังใจทำงาน และอาจเลิกไปได้ในที่สุด


    ตรงนี้เองที่ ธุรกิจ GDI มองเห็น เลยมีการทำระบบ win-win ขึ้น อย่างเช่นตอนนี้ เค้ามี Promotion ว่า ถ้าใครสามารถโปรโมทแล้วมีผู้สนใจร่วมธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ ทางที่ 1,2 หรือ3 ก็ตาม ถ้าครบ 5 คน ในรอบ 7 วัน ท่านสามารถรับ Bonus ได้เลย $100 เอาง่ายๆจะครับ สมมติว่า วันนี้ท่านสนใจธุรกิจ GDI และเข้ามาทำธุรกิจ ผมก็สอนงานคุณให้คุณใช้ระบบเป็น เกิดมีคนสนใจทำธุรกิจกับท่าน 5 คน ท่านก็ได้รับ $5(+ โบนัส $100 ถ้าท่านหาได้ภายใน1สัปดาห์) ผมก็จะได้รับ $5 เพราะผมสอนงานคุณจริงมั้ยครับ
แต่อย่างที่ผมบอกว่า
    รายได้ = ความทุ่มเท * เวลา * การเรียนรู้เทคนิคการทำงาน ท่านทุ่มเทมากกว่าผม ใช้เวลามากกว่าผม เรียนรู้มากกว่าผม ท่านก็ควรจะได้รับรายได้มากกว่าผม จริงมั้ยครับ GDI จึงให้ Bonus ท่านทันทีอีก $100  ในขณะที่ผมได้รับเพียง $5 เท่านั้น ท่านได้รับรายได้มากกว่าผมถึง 21 เท่า อย่างนี่สิครับ จึงเรียกว่า แฟร์ จริงมั้ยครับ 
 
logo sign


    แต่ในวันนี้คนเล่นเน็ตในประเทศเรา 20 ล้านกว่าคน 
มีไม่กี่คนที่รู้จักธุรกิจ  GDI ดังนั้น
ผมจึงมองเห็นอนาคตที่สดใสรออยู่ครับ


    จง จำไว้ว่า ธุรกิจ GDI เป็นธุรกิจ ที่กำลังเติบโต และสามารถสร้างรายได้ในระยะยาว ไม่จำกัดแค่ในประเทศ สามารถทำได้ทั่วโลก และทุกอย่างทำบน Internet ทั้งหมด

***ถ้าคิดจะทำธุรกิจออนไลน์
แต่ทำ GDI ไม่สำเร็จ ผมว่าอย่าได้เสี่ยงธุรกิจ ออนไลน์อื่นๆ เลยครับ***



logo sign

บทความเปลี่ยนความคิดคนทั้งโลก!!

Residual  Income

ท่านได้อ่านบทความนี้ ซึ่งเนื้อหาในนี้นั้นได้เปลี่ยนแนวความคิดของผู้คนมาแล้วทั่วโลกและทำให้คน ธรรมดาๆกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ในเวลารวดเร็ว 

หากท่านเป็นคน หนึ่งมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้สิ่งๆใหม่ ขอให้ลองติดตามบทความนี้ และท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีเช่นกัน

เราลองมาทำความเข้าใจกับสิ่งเหล่านี้ดูครับ ว่ามันคืออะไร 


สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก:Residual Income (รายได้กระจี๊ดกระจ้อย แต่ไม่กระจอก)
Residual Income (หรือ Passive หรือ Recurring) แปลเป็นไทยยากครับ แต่คือ......ยกตัวอย่างเช่น รายได้ต่อเดือน (หรือต่อปี) เล็กๆ น้อยๆ ไม่มาก ที่มีเข้ามาหาคุณ ตลอดเรื่อยๆ ไป จากการลงแรง ลงทุน หรือการทำบางอย่าง ในครั้งแรก
(ตรงข้ามกับ คำว่า  One-short Linear Income ที่หมายถึง ทำอะไรไป ก็ได้รายได้กลับมาครั้งเดียวจบกันไป เช่น เงินเดือนประจำ ค่าจ้าง ค่าแรง ค่าบริการ ฯลฯ) เช่น คุณต้องการมีเงินฝาก ในราคาสูงถึง 240,000 บาท (ถ้าคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 5% ต่อปี) จึงได้รับเงินดอกเบี้ย เดือนละประมาณ 1,000 บาท/เดือน (หรือเท่ากับ 12,000 บาท/ปี)เป็นดั่ง Residual Income ของคุณที่คุณเหมือนได้เข้ามาเรื่อยๆและมั่นคือความมั่นคงของคุณ
แง่ มุมของ  Residual Income นี้ไม่จำเป็นต้องมาจากฝากธนาคารครับ อาจจะเป็นในรูปการลงทุนซื้อหุ้นปันผล พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนอื่นๆ หรือแม้แต่การสร้างธุรกิจเครือข่าย
(ผู้แต่ง Harry Potter ได้ค่าลิขสิทธิ์ จากหนังสือที่ขายได้เรื่อยๆ ตลอดปีตลอดชาติ ผู้แต่งเพลงได้ค่าลิขสิทธิ์อยู่เรื่อยๆ ตราบเท่าที่ยังมีคนเอาเพลงที่เขาแต่งไปขาย, ซื้อคอนโดมิเนียมแล้วปล่อยเช่ารายเดือน สิ่งเหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็น Residual Income ครับ)
ลองจินตนาการว่า ถ้าคุณต้องการรับรายได้ถึง 500,000 บาท / เดือน ไปเรื่อยๆ พร้อมกับมีอิสระภาพ ที่จะเกษียณตัวเองได้ นั่นคือคุณต้องมีเงินฝากในธนาคารถึง 120 ล้านบาท (ถ้าคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 5% แต่ความจริงดอกเบี้ยธนาคารน้อยกว่านั้นอีก)

คำถามคือนานแค่ไหนคุณจึงจะมีขนาดนี้?

ไม่ ต้องสงสัยเลย บรรดาคนรวยๆ สามารถนำเงิน (ที่เยอะพอ) มาบริหารเพื่อสร้าง Residual Income เพื่อให้เขาเกษียณตัวเองได้ (ถ้าเขาอยาก) แบบมีอิสระภาพทั้งเรื่องเงินและเรื่องเวลาครับ
ข่าวดีครับ .....มันเป็นไปได้ที่คุณสามารถ สร้างรายได้ ในระดับ 500,000 บาท/เดือน (รับเรื่อยๆ ยิ่งมากขึ้น ถ้าองค์กรยิ่งโตขึ้น ทำให้เสมือนคุณมีเงิน 120 ล้านบาทนี้ฝากอยู่ในธนาคาร) แค่ ภายในระยะเวลาแค่ 2 – 5 ปี! ด้วยธุรกิจเครื่อยข่าย
นั่นคือยิ่งคุณมีคนภายใต้สายงานของคุณเยอะ รายได้คุณก็จะมาจาก Residual Income ภายใต้อาณาจักรสายงานของคุณ
ใน ธุรกิจเครือข่าย ยิ่งคุณช่วยทีมงานคุณให้สร้างองค์กรของพวกเขา รายได้คุณก็ยิ่งโต! รายได้ของคุณจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เวลาและความพยายามส่วนตัวของคุณ อย่างเดียวอีกต่อไป เหมือนอาชีพอื่นๆ (แม้กระทั่งแพทย์ หรือวิศวกร) ที่รายได้มาจากการทำงาน / ทุ่มเท ส่วนตัวเท่านั้น (อยากได้เงินมากขึ้น ก็ขยันทำงานเข้าไป ทำ Overtime ให้มากขึ้น ขายสินค้าเองให้เยอะขึ้น: One – Short Linear Income)
สิ่ง เหล่านี้ นำมาสู่ค่ำว่า “อิสรภาพ” ที่บรรยายภาพว่า คุณสามารถตื่นนอน ตอนไหนก็ได้ ที่คุณปรารถนา โดยไม่กระทบ หรือเกี่ยวอะไร กับระดับรายได้ที่คุณได้รับอยู่ พอตื่นมาแล้ว อยากจะทำอะไรก็ได้ ทำที่ไหนก็ได้ อยากเที่ยวไหนก็เที่ยว


ไม่ต้องมีคำถาม เหล่านี้อีกต่อไป ว่า........
 
“ถ้าวันหนึ่ง ผมเกิดอุบัติเหตุ พิการ ทำงานไม่ได้ รายได้ผมจะมาจากไหน ครอบครัวผม จะเป็นยังไง?”
“ถ้าวันหนึ่งเราถูกไล่ออกจากงานใครจะช่วยเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น?”
“ถ้าวันหนึ่ง คนที่เรารักมีอันต้องป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาล เราจะรับผิดชอบภาระค่าใช่จ่าย หรือเคลียดแค่ไหนกับชีวิต?”
นี่แหละครับ คำว่า “อิสรภาพ” ทั้งด้านการเงิน และ เวลา ที่มาจาก “Residual Income”
ถ้าผมถามคุณว่าวันนี้คุณจะเลือกสร้างรายได้แบบไหนระหว่าง.....
  1. ทุ่มเททำงานและรับรายได้ไปเลยครั้งเดียว (One – Short Linear Income)
  2. ทุ่มเท ทำงาน เสียแรงและเวลาเท่ากัน แต่สร้างรายได้ให้เราแบบ ต่อเนื่อง บางทีเป็นแรมปีหรือตลอดชีวิต สำหรับการทุ่มเททำงานครั้งเดียวของคุณ
คุณเลือกเองครับ …….

ผม คิดอยู่เสมอครับว่า ในเวลาที่เรามีพร้อมทั้ง กำลัง ความคิด ความสามารถ เป็นการดีที่เรา จะลอง หาทางให้ตัวเองเข้าสู่ อิสรภาพทางการเงิน-เวลา ได้โดยเร็ว
คนสมัยก่อนต่างบอกว่า “จงขยันทำงานและเก็บออม แล้วคุณจะรวย” แต่สมัยนี้ผมว่า ถ้าคุณแค่ ขยันและเก็บออม คุณอาจจะแค่มีความสุขกับชีวิตพอเพียงตามอัตภาพ
แต่.......ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการพัฒนาระดับรายได้ไปอีกขั้น ได้ใช้ชีวิตในอีกระดับ ได้ใช้ชีวิตแทนที่จะถูกชีวิตใช้
หลายคนบอกครับว่า “โลก ทุกวันนี้ การแข่งขันสูง หาเงินยาก” ผมว่าก็จริงครับ....แต่ไม่ทั้งหมด ผมว่า “โลกทุกวันนี้ หาเงินง่ายขึ้นครับ แต่สำหรับผู้ที่มีความรู้ และรู้วิธีการ เท่านั้นนะ”
คำแนะนำของผมคือ เป็นการดีที่จะมุ่งเน้นทำธุรกิจที่สร้าง  Residual Income ให้คุณครับ และ.... ไม่ต้องสงสัย ธุรกิจเครือข่ายคือ หนึ่งในคำตอบครับ
คุณ อาจจะเริ่มลองเข้าร่วม ธุรกิจเครือข่าย โดยใช้เวลาว่างช่วง Part-Time ค่อยๆ สร้างไปเรื่อยๆ จนคุณมั่นใจกับแนวทางการทำงานสร้างธุรกิจ และมีรายได้จากธุรกิจนี้ เกินรายได้จากเงินเดือนประจำ คุณจึงค่อยตัดสินใจอีกครั้งก็ได้ครับ ว่าจะทำธุรกิจเครือข่ายแบบ Full-Time หรือไม่




logo sign

กูรูของธุรกิจเครือข่ายกล่าวว่า



Mr. Peter Drucker กูรูของธุรกิจเครือข่าย ได้กล่าวเอาไว้ว่า
ธุรกิจเครือข่าย ที่ดีต้องประกอบ
ไปด้วยองค์ประกอบทั้ง 7 อย่าง

1. Company บริษัทต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง
2. Product สินค้าต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ไม่มีคู่แข่ง
3. Plan แผนรายได้ต้องยุติธรรม และมีรายได้ที่คุ้มค่า
4. Trends สินค้าต้องมีแนวโน้มที่เป็นที่ต้องการของตลาดในอนาคตและ
ปัจจุบัน
5. Timing ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นไม่นาน และอยู่ในช่วงกำลัง
เจริญเติบโต
6. Team ต้องมีผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ สามารถช่วยให้ท่านประสบ
ความสำเร็จได้จริง ๆ
7. Management ต้องมีระบบการจัดการที่เป็นมืออาชีพ ผู้บริหารงานต้อง
มีประสบการณ์มายาวนานในด้านธุรกิจเครือข่าย


แล้วในด้านของธุรกิจ GDI มีข้อไหนที่ตรงกับคำบอกกล่าวของกูรูด้านเครือข่ายบ้างหละ เราไปดูกันทีละข้อเลยนะครับ


  1. Company บริษัท Global Domains International (GDI) มีความมั่นคงสูง เปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 9 ปี

    1. หุ้นส่วนหลักของธุรกิจ GDI คือ Government of Samoa (รัฐบาลประเทศซามัว),Intel (ผู้ผลิตไมโครชิพสำหรับคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก)
    2. บริษัท GDI เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 37 ของประเทศอเมริกา
    3. GDI ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิก DSA หรือสมาพันธ์การขายตรงโลก
    4. ธุรกิจ GDI ขยายไปถึง 180 ประเทศทั่วโลก 


  2. Product สินค้า เราไม่มีคู่แข่ง เราเป็นเจ้าของโดเมน .ws เจ้าเดียวในโลก GDI ไม่มีการคู่แข่งขันในตลาดเครือข่าย network marketing เราเป็นบริษัทเดียวที่มีความสามารถในเรื่องการตลาดในชื่อโดเมนของเราตลอดจน พลังของการตลาดเครือข่าย

  3. Plan แผน รายได้คุ้มค่า มีการให้โบนัสรายสัปดาห์ สำหรับคนที่ขยัน และคอมมิชชั่นรายเดือน GDI จ่ายรายได้ตรงต่อเวลาให้กับสมาชิกทั่วโลก และไม่เคยล่าช้าแม้แต่ครั้งเดียว

  4. Trends ธุรกิจ ออนไลน์ สินค้าโดเมน เว็บไซด์ โฮสติ้ง เป็นความต้องการของตลาดในปัจจุบัน และอนาคตเป็นอย่างมาก internet เป็นสื่อที่เข้าถึงทั่วทุกมุมโลก มีอัตราการเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมทั้งความต้องการเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมี ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมโดเมนทำนายไว้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีผู้ใช้ตื่นตัวโดเมน (Dot WS) มากกว่า 500 ล้านโดเมนทั่วโลก บริษัท Intel คาดว่าเครื่อง PC (Personal Computer) ทุกเครื่องจะมีโดเมนเนมเป็นของตนเอง

  5. Timing วัน นี้มีผู้จด Dot WS แล้วมากกว่า 20 ล้าน โดเมนทั่วโลก ไม่มีช่วงไหน เหมาะเท่าช่วงนี้อีกแล้ว เวลานี้การขยายตัวของ .ws เพิ่มขึ้น ทุกๆ วินาที

  6. Team ทีม งาน GDI MakeMeRich มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจออนไลน์ และการทำธุรกิจเครือข่าย สามารถนำความรู้และประสบการณ์ มาพัฒนาผสมผสานระหว่างธุรกิจออนไลน์ และแบบเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จได้ในธุรกิจ GDI

  7. Management ระบบ การจัดการเราเป็นมืออาชีพและพัฒนามาตลอดระยะเวลา 9 ปี และมีการพัฒนารูปแบบใหม่ ขึ้นเรื่อย ๆ และทันสมัยเพื่อสนับสนุนนักธุรกิจให้ทำงานได้สะดวกสบาย เพราะผู้ก่อตั้ง คือ Mike และ Alan เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ GDI และเป็นผู้เชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จด้านการตลาด และธุรกิจ e-commerce และ เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้าน IT และเป็นบุคคลสำคัญของสหรัฐอเมริกา




    logo sign

    คุณเคยเจอ Sponser แบบนี้ไหม



    หลังจากที่คุณมีความสนใจ ธุรกิจใด ๆ แล้วนั้น คุณได้ให้ข้อมูล กรอก ชื่อ เบอร์โทรศัพท์emailแล้ว ถ้าหากมีผู้แนะนำธุรกิจ 2 ท่าน ติดต่อกลับคุณมาดังนี้ คุณจะตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับใคร ระหว่าง

    ผู้แนะนำธุรกิจคนที่ 1 นัดสัมภาษณ์คุณหลังเลิกงาน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง และไม่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับงานใดๆ คุณต้องเข้ามาฟังเองเท่านั้น คุณกล้าจะเสี่ยงไปไหมครับ โดยที่คุณไม่ทราบเลยว่าธุรกิจนั้นคืออะไร และจะเกิดอะไรขึ้น 

    ส่วนผู้แนะนำธุรกิจคนที่ 2 ติดต่อคุณและให้ข้อมูลครบถ้วนในอีเมล อย่างตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังข้อมูลใด ๆ  รวมทั้งแนะนำการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย

    คุณเคยตกเป็น คุณตกเป็นอาหารเย็นของใครหรือไม่?

    ผม ถูกสปอนเซอร์จากผู้แนะนำธุรกิจคนนึ่งจากประสบการณ์ตรงของผมนะครับ (จากการหลอกล่อว่าจะไปรับประทานอาหารเย็น) แนะนำให้ผมเข้าไปยังบริษัท พอเข้าไปคุณจะรู้ว่ามีหลายสายตาต่างจดจ้องคุณอยู่ เมื่อผู้แนะนำธุรกิจได้ทำการแนะนำธุรกิจให้แก่คุณอยู่นั้น เจ้าของสายตาเหล่านั้นก็ได้คืบคลานมาหาคุณทีละน้อย ซึ่งคุณรู้ตัวอีกที ตอนนี้คุณถูกล้อมซะแล้ว คุณคิดว่าคุณจะทำอย่างไรต่อไปดี? ซึ่งในขณะนั้นแน่นอนคุณดิ้นไม่หลุดแน่นอน ตอนนี้เงินแสนเงินล้าน ไม่เอาแล้ว อยากออกไปจากที่นี่จริงๆ พฤติกรรมที่เลวร้ายที่สุดที่ผมเคยได้รับมา คือ การขูดรีดเอาเงินจองรหัสไว้ก่อน ถ้าคุณกล้าพอที่จะปฏิเสธ ผมขอคารวะจากใจจริง ผมก็บอกว่าไม่มีจริงๆ ครับ ไม่ได้พกมา ร้ายไปกว่านั้นคือ พวกเขาบอกว่า ร้อยเดียวก็ได้ ผมคิดว่า ผมกำลังตกเป็นอาหารเย็นของคุณกลุ่มนี้ไปสะแล้ว

    คุณคิดว่า อัพไลน์ หรือ ผู้แนะนำธุรกิจ คือคนที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จใช่หรือไม่?

    เคย มีบ้างไหม เมื่อถึงวันสิ้นเดือนคุณเคยมีผู้แนะนำธุรกิจโทรมาหาคุณบ้างไหมครับ “หวัดดีค่ะ วันนี้พี่จะเข้าไปซื้อของที่ เซ็นเตอร์ น้องเอาอะไรไหมสัก 500 บาท พอดียอดเดือนนี้พี่ขาด เดี่ยวพี่จะไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ช่วยพี่หน่อยนะ
    ตกลงว่าใครต้องช่วยใครกันแน่ ใช่หรือไม่ว่า อัพไลน์ หรือ ผู้แนะนำธุรกิจ ต้องช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย หรือช่วยแนะนำสิ่งดี ๆ ให้คุณ ซึ่งไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือตำแหน่งใด ๆ ที่เขาจะได้รับ
    ทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการสปอนเซอร์ในธุรกิจเครือข่ายในรูป แบบเดิมๆ และยังคงมีอยู่ในปัจจุบันซึ่ง ผมคิดว่ามันมีหลายวิธีที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และการให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ไม่ปิดบัง รวมทั้งการแสดงความจริงใจในการที่คุณอยากจะช่วย นั่นย่อมดีกว่าการที่คุณแสดงให้เห็นว่าคุณอยากจะได้ (เพราะนั่นคือความโลภ) การที่คุณมีความต้องการอยากจะช่วยทำให้ผู้สนใจของคุณอยากเข้าร่วมในธุรกิจ กับคุณ และเป็นการแสดงออกถึงคุณค่าในตัวคุณที่มีต่อผู้สนใจด้วยครับ

    เพราะฉะนั้นคุณคงไม่ต้องออกไปผจญภัยนอกบ้าน ก่อนได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน เพราะบางครั้งอาจจะทำให้คุณกลับมาด้วยความผิดหวัง รวมทั้งเสียเงินและเสียเวลาเปล่าครับ


    logo sign


      แชร์ลูกโซ่ คืออะไร?


      แชร์ลูกโซ่ คืออะไร? เรามาดูกันเลยครับ


      แชร์ ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินธุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อหารายได้จากการระดมทุนเป็นหลัก โดยมีการสัญญาในการเข้าร่วมธุรกิจที่จะตอบแทนผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สูงกว่าเงินลงทุนเพื่อเป็นการจูงใจให้มีผู้มาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการมักจะอ้างถึงการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลจากการนำเงินไปลงทุน เพื่อ กระตุ้นให้เกิดการร่วมธุรกิจอย่างต่อเนื่องและจูงใจให้ลงทุนเพิ่มมากขึ้นจน เมื่อถึงจุดที่ผู้ประกอบการหวังผลในการระดมทุนสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว ก็จะหาทางปิดตัวไปเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายผลประโยชน์ต่อ ๆ ไป หรืออาจจะดำเนินการต่อเนื่อง จนกว่าผู้ที่เข้ามาร่วมธุรกิจในช่วงหลังจะไม่สามารถหมุนเวียนเงินตอบแทนกับ คนที่มาก่อนได้ ก็จะเริ่มปิดตัวลง ตัวอย่างแชร์ลูกโซ่ที่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยสุดท้ายก็ต้องปิดตัวลง เช่น แชร์รถยนต์ เป็นต้น

      ลักษณะและวิธีการดำเนินงานของแชร์ลูกโซ่

      ส่วนใหญ่วิธีการดำเนินงานของแชร์ลูกโซ่จะเริ่มจากวงแคบ ๆ จากคนใกล้ชิดแล้วค่อย ๆ ขยายตัวไปรอบนอก จนถึงขั้นควบคุมไม่ได้ เพราะจะเริ่มออกสู่วงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ การหาสมาชิกก็จะใช้วิธีสร้างภาพลวง หว่านล้อมให้เกิดความเชื่อและจ่ายผลประโยชน์ให้กับสมาชิกระดับต้น ๆ หรือคนใกล้ชิดเป็นส่วนใหญ่ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ และสมาชิกเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็นคนสนิทของกลุ่มผู้ก่อตั้งแชร์ลูกโซ่อยู่ แล้ว ย่อมมีผลประโยชน์คาบเกี่ยวกันมากมาย ดังนั้น จึงสามารถที่จะสร้างภาพลวงร่วมกันได้ สุดท้ายเมื่อระดมทุนได้ตามเป้าหมายแล้วก็จะปิดตัวลง ซึ่งสมาชิกระดับใกล้ชิดก็จะไม่เสียประโยชน์ใด ๆ ส่วนแมลงเม่าที่บินมาในภายหลังส่วนใหญ่จะเป็นผู้เสียหาย และตามตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้ เพราะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ครั้นจะมาหาข้อมูลจากสมาชิกระดับผู้นำก็เปล่าประโยชน์ เพราะได้ปิดปากตัวเองจากผลประโยชน์ที่คาบเกี่ยวกันกับเจ้าของแชร์ลูกโซ่

      เมื่อท่านได้อ่านบทความนี้แล้ว คงทราบแล้วนะคะว่าธุรกิจ GDI 
      ไม่ใช่ แชร์ลูกโซ่อย่างที่หลายๆคนอาจเข้าใจผิดครับ



      logo sign


      MLM คืออะไร?


      Multilevel Marketing
       

      ก่อนที่ท่านจะได้เรียนรู้หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจเครือข่าย หลายคนคงเคยได้ยินและท่านรู้ไหมว่า MLM คืออะไร ดังนั้นเรามาทำความรู้จักความหมายของคำว่า MLM กันเลย

      MLM ย่อมาจากคำว่า Multilevel Marketing ความหมายก็คือ การขยายเครือข่ายผู้บริโภค เพื่อ มุ่งเน้นการคืนกำไรสู่ผู้บริโภค ผ่านแผนการตลาด ที่วิเคราะห์โดยนักการตลาดมืออาชีพ เราสามารถเป็นได้ถึง 3 สถานภาพ โดยเป็นทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และ ผู้บริหาร ในคนเดียวกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่ผู้ทำ MLM ไม่ได้ขายสินค้าเอง แต่เขาสามารถมีรายได้เป็นจำนวนมากต่อเดือนเนื่องจากเขาได้ทำการบริหารองค์กรของเขาให้เจริญเติบโตขึ้นนั่นเอง

      ระบบ MLM เป็น ระบบการตลาดที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถทำธุรกิจได้โดยใช้เงินลงทุนต่ำ ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เข้ามาก่อนหรือหลัง และคุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือความความรู้สูงๆ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ MLM คุณจะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้จำเป็นต้องมีหลักการในการมองหาธุรกิจ MLM ให้เหมาะสมกับตัวคุณ


      โดยจะต้องศึกษาองค์ประกอบ 4 ประการนี้เป็นสำคัญ นั่นก็คือ

      1.ต้องเป็นบริษัทที่ดีเชื่อถือได้ ที่สำคัญจะต้องสามารถตรวจสอบความมีตัวตนของบริษัทได้

      2.ผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพดีและสามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นได้

      3.แผนการตลาดที่ดีตรงใจคุณ

      4.สิ่งสุดท้ายที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือวิธีการทำงานเพื่อขยายเครือข่ายออกไปสู่ผู้บริโภค


      เนื่องจากมีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิดคิดว่าธุรกิจเครือข่ายคือธุรกิจเดียวกัน กับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งความจริงแล้วเป็นธุรกิจคนละประเภทกันครับ




      logo sign